เสวนา
Cambodia Connect:A New Business Opportunity 4.0 เปิดโอกาสเศรษฐกิจใหม่
เชื่อมโยงตลาดกัมพูชาในยุค 4.0 พุธที่
22 กุมภาพันธ์ 2560 ณ ห้องชฎาแกรนด์บอลรูม โรงแรมบางกอกชฎา
/span>
ประธานในพิธี นายมาตยวงศ์
อมาตยกุล
นักวิชาการพาณิชย์เชี่ยวชาญ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
“การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยที่ผ่านมาพึ่งพาการส่งออกในสัดส่วนค่อนข้างสูง คือ
ประมาณร้อยละ 70.2 ของ GDP โดยตลาดส่งออกสำคัญของไทย ได้แก่ กลุ่มประเทศอาเซียน
24.7% จีน 11.7% ญี่ปุ่น 10.2% ขณะที่สหรัฐฯและยุโรปซึ่งเคยเป็นตลาดสำคัญในอดีต
ปัจจุบันมีสัดส่วนเพียง 10% และ 9.5% ตามลำดับ ทั้งนี้การส่งออกไปยังกลุ่มประเทศ CLMV เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากประชากรซึ่งรวมกันมีจำนวน 137 ล้านคนนั้น
มีกำลังซื้อสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
และสินค้าส่วนหนึ่งถูกส่งผ่านไปยังผู้บริโภคทางตอนใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน
โดยในปี 2559 มูลค่าการส่งออกไทยไปยังตลาด CLMV มีมูลค่าถึง 22,257 ล้านเหรียญสหรัฐ ดังนั้นการเข้าถึงตลาดการค้าและการลงทุนในกลุ่มประเทศ CLMV จึงเป็นปัจจัยสำคัญต่อการส่งเสริมบทบาทการค้าและการลงทุนของประเทศไทย” “กัมพูชา เป็นประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว
เศรษฐกิจของประเทศขับเคลื่อนโดยภาคอุตสาหกรรม การบริการ และเกษตรกรรม
โดยมูลค่าการส่งออกของไทยไปยังกัมพูชาในปี 2559 มีมูลค่าถึง 4,659 ล้านเหรียญสหรัฐ
กัมพูชามีความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคทุกประเภทในปริมาณสูง
เนื่องจากไม่สามารถผลิตได้เพียงพอและต้องนำเข้าสินค้าหลายอย่าง นอกจากนี้
กัมพูชาอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกสู่ความเป็นเมือง
ทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้างเป็นที่ต้องการ
จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยที่จะเข้าไปทำการค้า การลงทุน
ทั้งเมืองหลักอย่างพนมเปญ หรือเมืองรองที่มีศักยภาพ อาทิ เสียมเรียบ และสีหนุวิลล์
โดยเมืองรอง ทั้งสองเมืองของกัมพูชา ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ
และมีความต้องการสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างมาก อาทิ
กลุ่มสินค้าสุขภาพและความงาม และกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น” กิจกรรม Cambodia
Connect ในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก วิทยากร และผู้ทรงคุณวุฒิ
ด้านการค้าในตลาดกัมพูชามาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ ภูมิความรู้ ให้แก่ผู้ประกอบการ
ทั้งในด้านการทำตลาด กลยุทธ์ธุรกิจ และการดำเนินการด้านกฎหมายการค้าระหว่างประเทศ
รวมถึงเคล็ดลับการดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จในตลาดกัมพูชาภายหลังการเปิด AEC
กำรบรรยำย “โอกาสและทิศทำงกำรค้ำกำรลงทุนไทยในตลำดกัมพูชำภำยหลังการเปิด AEC”
วิทยากรโดย คุณเกษมสันต์ วีระกุล
นักวิชาการอิสระ และผู้เชี่ยวชาญ AEC
กำรเสวนำ “รุกตลำดกัมพูชำอย่างไร ให้มีชัยในยุค 4.0”
วิทยำกร
- ดร.ณรงค์ ศรีเกรียงทอง
รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท โมเดิรน์คาส อินเตอร์เนชั่นแนล คอสเมติคส์ จำกัด
ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทำสีผมและดูแลเส้นผม ยี่ห้อดีแคส (DCASH)
- คุณวิทูร ศุภประกฤต
ที่ปรึกษาอิสระ ผู้เชี่ยวชาญตลาดกัมพูชา
- ดร.บุญเกื้อ ตั้งศรีตระกูล
ประธานบริหาร Southeast International Institute
และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมธุรกิจไทยในกัมพูชา
ดำเนินรายการโดย นางสาวสึภาวดี เวศยพิรุฬห์

นักวิชาการพาณิชย์เชี่ยวชาญ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
“การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยที่ผ่านมาพึ่งพาการส่งออกในสัดส่วนค่อนข้างสูง คือ ประมาณร้อยละ 70.2 ของ GDP โดยตลาดส่งออกสำคัญของไทย ได้แก่ กลุ่มประเทศอาเซียน 24.7% จีน 11.7% ญี่ปุ่น 10.2% ขณะที่สหรัฐฯและยุโรปซึ่งเคยเป็นตลาดสำคัญในอดีต ปัจจุบันมีสัดส่วนเพียง 10% และ 9.5% ตามลำดับ ทั้งนี้การส่งออกไปยังกลุ่มประเทศ CLMV เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากประชากรซึ่งรวมกันมีจำนวน 137 ล้านคนนั้น มีกำลังซื้อสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และสินค้าส่วนหนึ่งถูกส่งผ่านไปยังผู้บริโภคทางตอนใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยในปี 2559 มูลค่าการส่งออกไทยไปยังตลาด CLMV มีมูลค่าถึง 22,257 ล้านเหรียญสหรัฐ ดังนั้นการเข้าถึงตลาดการค้าและการลงทุนในกลุ่มประเทศ CLMV จึงเป็นปัจจัยสำคัญต่อการส่งเสริมบทบาทการค้าและการลงทุนของประเทศไทย” “กัมพูชา เป็นประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว เศรษฐกิจของประเทศขับเคลื่อนโดยภาคอุตสาหกรรม การบริการ และเกษตรกรรม โดยมูลค่าการส่งออกของไทยไปยังกัมพูชาในปี 2559 มีมูลค่าถึง 4,659 ล้านเหรียญสหรัฐ กัมพูชามีความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคทุกประเภทในปริมาณสูง เนื่องจากไม่สามารถผลิตได้เพียงพอและต้องนำเข้าสินค้าหลายอย่าง นอกจากนี้ กัมพูชาอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกสู่ความเป็นเมือง ทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้างเป็นที่ต้องการ จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยที่จะเข้าไปทำการค้า การลงทุน ทั้งเมืองหลักอย่างพนมเปญ หรือเมืองรองที่มีศักยภาพ อาทิ เสียมเรียบ และสีหนุวิลล์ โดยเมืองรอง ทั้งสองเมืองของกัมพูชา ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ และมีความต้องการสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างมาก อาทิ กลุ่มสินค้าสุขภาพและความงาม และกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น” กิจกรรม Cambodia Connect ในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก วิทยากร และผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านการค้าในตลาดกัมพูชามาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ ภูมิความรู้ ให้แก่ผู้ประกอบการ ทั้งในด้านการทำตลาด กลยุทธ์ธุรกิจ และการดำเนินการด้านกฎหมายการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงเคล็ดลับการดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จในตลาดกัมพูชาภายหลังการเปิด AEC
กำรบรรยำย “โอกาสและทิศทำงกำรค้ำกำรลงทุนไทยในตลำดกัมพูชำภำยหลังการเปิด AEC”
วิทยากรโดย คุณเกษมสันต์ วีระกุล นักวิชาการอิสระ และผู้เชี่ยวชาญ AEC
กำรเสวนำ “รุกตลำดกัมพูชำอย่างไร ให้มีชัยในยุค 4.0”
วิทยำกร
- ดร.ณรงค์ ศรีเกรียงทอง
รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท โมเดิรน์คาส อินเตอร์เนชั่นแนล คอสเมติคส์ จำกัด
ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทำสีผมและดูแลเส้นผม ยี่ห้อดีแคส (DCASH)
- คุณวิทูร ศุภประกฤต ที่ปรึกษาอิสระ ผู้เชี่ยวชาญตลาดกัมพูชา
- ดร.บุญเกื้อ ตั้งศรีตระกูล ประธานบริหาร Southeast International Institute
และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมธุรกิจไทยในกัมพูชา
ดำเนินรายการโดย นางสาวสึภาวดี เวศยพิรุฬห์

No comments:
Post a Comment