![]() |
ครั้งที่ 1 วันพฤหัสที่ 31 มีนาคม 2559 ณ โรงแรมอีสติน ตัน จ.เชียงใหม่ |
กิจกรรมในงานฯ ประกอบด้วย
(1) กิจกรรมในช่วงเช้า ประกอบด้วย
1.1 การบรรยายในหัวข้อ "โอกาสของผลิตภัณฑ์ไทย หลังเปิดตลาด AEC "
โดย อาจารย์ ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด
Timing Management คือ
บริหารจังหวะเวลา SMEs ที่สามารถขยายตลาดไปสู่
AEC
ได้ มักตามมาด้วยปัญหาการถูกลอกเลียนแบบ
พร้อมไปกับการเข้ามาตัดราคาจาก
ผู้ประกอบการรายใหญ่ ดังนั้น
หากต้องการหลีกเลี่ยงสงครามราคาผู้ประกอบการจึง
ควรสร้างแบรนด์
ด้วยสภาพแวดล้อมดังกล่าวการประกอบการของ
SMEs จึงต้องพิจารณาเงื่อนไข
สำคัญคือ
Know
Youself : What. Benefit dose your products or service really provide?
(สินค้าและบริการของเรามีคุณประโยชน์อย่างไร)
หมายถึง
สินค้าและบริการที่ดำเนินอยู่จัดอยู่กลุ่มใด , กลุ่มที่อยู่นั้นมีโอกาสหรือเป็นอุปสรรค
หากเป็น
Blue
Ocean ต้องมีความแตกต่างและมีข้อดีเหนือคู่แข่งในกลุ่มเดียวกัน , สอดคล้อง
กับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายหรือไม่ จากนั้นพึงวิเคราะห์ขนาดตลาดและดำเนินธุรกิจ
ด้วยการ
Focus พร้อมไปกับการพัฒนาโดยอาศัยการสังเกตุต้นแบบที่ประสบความสำเร็จใน
การส่งออก
การก้าวสู่ตลาด AEC วัฒนธรรมคือปัจจัยที่ควรพิจารณาว่าจะเป็นโอกาส
อาทิ การ
เรียนรู้วัฒนธรรมไทยผ่านสื่อ เกิดความเชื่อมั่นสินค้าไทยในกลุ่มประเทศ CLMVโดยเฉพาะ
อย่างยิ่งในกลุ่มนี้ทีอัตราการขยายตัวต่อเนื่องจนเกิดชนชั้นกลางจำนวนมากที่เป้นหำลังซื้อ
การวางแผนธุรกิจควรคำนึงถึงเป้าหมายธุรกิจว่า
เราอยู่ใน Generation
ใดในการ
ทำธุรกิจ
หากกิจการมีการเติบโดตจะมีการตัดสินใจต่อองค์กรอย่างไร อาทิ การขายกิจการ
หรือการนำเข้าสู่การระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์สำหรับ
SME ได้แก่ ตลาด MAI
โครงสร้างการค้าระหว่างประเทศได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบไปตามโครงสร้างการรวม
กลุ่มการค้า
เช่นเดียวกับการรวมตัวของ 10 ประเทศสมาชิกอาเซียนในนาม AEC ซึ่งไทยใน
ฐานะ
1 ในประเทศสมาชิกมีความน่าสนใจน้อยกว่าประเทศอื่น โดยเทียบอัตราการขยายตัว
ที่เป็นเพียง
ยละ ๒.๘ ขณะที่ลาวขยายร้อยละ ๙ รองลงไปคือกัมพูชา ร้อยละ๘ ประเทศพม่า
ร้อยละ
๗ พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าการเมืองใหม่กับการมีประธานาธิบดีคนใหม่
ที่เป็นพลเรือนเป็นคนแรก
1.2 การเสวนาในหัวข้อ “AEC
Smart Move : รู้ทิศ พิชิตโอกาส ก้าวสู่ตลาดอาเซียนอย่างยั่งยืน”
โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิประกอบด้วย
- คุณสรกิจ
มั่นบุปผชาติ
กรรมการผู้จัดการ
บริษัท เศรษฐ์อินเตอร์เทรด จำกัด
สภาวะแวดล้อมทางธุรกิจภายหลังการเปิด
AEC
ประเทศอื่นนอก AEC ตื่นตัวเข้ามาใน
AEC มาก ภายใน 5
ปีข้างหน้าจะเปลี่ยน
โฉมหน้ามือเป็นหลังมือ ประเทศไทย คือศูนย์กลางของโลจิสติกส์
อยู่ที่การยูทิไลส์
ประโยชน์จากการเป็นศูนย์กลางของเรามากน้อยแค่ไหน
มีความพร้อมมากในกลุ่ม
สินค้าไลฟ์สไตล์ที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์
การศึกษาประเทศญี่ปุ่น
จะส่งออกเซมเบ้ที่บรรจุผลไม้อบแห้ง ที่เป็นวัฒนธรรม
กรณีศึกษาประเทศอินเดีย
กำลังตื่นตัว
มีหลายสินค้าประสบความสำเร็จในยุโรป
วิธีการคิดที่แตกต่างมีความสำคัญไม่น้อยกว่าความสามารถในการบริหารธุรกิจ
1. การรักษาความชำนาญที่มี
2. การแบ่งงานตามความถนัดของบุคคลากรหรือพันธมิตร
3. การเติมเต็มในสิ่งที่พันธมิตรขาด
4. การจัดการโครงสร้างองค์กรให้สอดคล้องกับการให้ความสำคัญด้านการบริการ
เพิ่มมากขึ้น
เพื่อสร้างความพึงพอใจและสามารถปิดการขายกับลูกค้าได้
5. การจัดการการบริการ
6. ด้านการตลาดพัฒนาจากการขายสินค้าแบรนด์ของตัวเองอย่างเดียวมาเป็นการ
รวมสินค้ากับพันธมิตรในรูป
Group
of Brand เมื่อทำตลาดใช้การนำเสนอร่วมกันผ่าน
แนวคิดร่วมกันในการนำเสนอโดยสร้างจุดแข็งร่วมกัน จากนั้นเชิญลูกค้าเป้าหมายเข้า
รับข้อมูลรายละเอียดคุณสมบัติของสินค้า การแนะนำแหล่งผลิต
7. การขยายกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เช่น
เดิมกลุ่ม Life
Style มีเป้าหมายคือกลุ่มโรงแรม
สามารถขยายเพิ่มเป็นกลุ่มห้างสรรพสินค้า เช่น
กระทรวงพาณิชย์การทำงานร่วมกับห้าง
Tagashiyama
ประเทศญี่ปุ่น
นำสินค้าไทยไปขายจริง (ทำคอนไซน์เม้นท์จริง Process จริง
ขายในราคาขายที่นั่น
)
กำลังทำกับห้างมิชสึโกฉิ(มาพร้อมกับอิเซตัน)
8. การขยายธุรกิจนอกจากการขายสินค้าไปสู่ธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่องตามความชำนาญ
ของผู้ประกอบการ
( มีแวร์เฮาส์อยู่ที่ กม.48 บางนา-ตราด 40 ไร่ ทำให้เป็นศูนย์กระจายสินค้า
โดย
JV กับพันธมิตรจากญี่ปุ่น )
เป้าหมายคือให้ลูกค้าได้สินค้าในราคาที่ถูกแลค่าขนส่งที่ถูก
9. การหาพาร์ทเนอร์ที่ทำงานด้วคือ คนดี
ชื่อเสียงดี (ดี)ตระกูลดี(ดีมาก) เริ่มจากการ
แลกเปลี่ยนการเป็นตัวแทนสินค้าระหว่างกัน
(Cross
Business) โดยตั้งเป้าหมายยอดค้า
ระหว่างกันอย่างชัดเจน
หากหาตลาดที่โฟกัสชัดเจนดำเนินการเปิดสำนักงาน (โรงแรมญี่ปุ่น
80
เปอร์เซ็นต์เป็นเรียวกังต้องการการพัฒนา
จึงเป็นโอกาสในการเสนอคิดธุรกิจแบบใหม่ๆ
ปี2020
จะเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก )
***
ตลาดที่ใช้สินค้าไทยคือ B-B+
ซึ่งเป็นตลาดใหญ่
- คุณวิทูร ศุภประกฤต
ที่ปรึกษาอิสระและอดีตผู้จัดการอาวุโสฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ
ที่ปรึกษาอิสระและอดีตผู้จัดการอาวุโสฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ
บริษัท โอสถสภา จำกัด
การทำธุรกิจกับเพื่อนบ้าน ควรมองเป็นพันธมิตรไม่ใช่คู่แข่งทางการค้า สามารถ
จับมือร่วมกันในการขยายตลาดนอก
AEC
- อะไรที่เราดีกว่าเขา อะไรที่เขาดีกว่าเรา ให้มีการแลกเปลี่ยน
- เลือกพนักงานจเอ็มก็เลือกคนไทย ไม่เลือกเวียดนามเพราะอีก 2 ปีเขาก็ไปเป็น
เถ้าแก่ ควรจับลักษณะเป็นพาร์ทเนอร์
- การไปตลาดต่างประเทศ สิ่งที่ควรพิจารณาคือ
คน(เลือกคนดีที่มีศักยภาพใน
การทำให้เก่ง)
- ไม่คิดว่าจะไปขายอย่างเดียว แต่ถ้าพบสินค้าดีก็ควรต่อยอดด้วยการนำเข้า หรือ
บริการ QA
ให้กับคู่ค้า
- เศรษฐกิจไม่ดี ทำของดกีราคาถูกหรือไม่
เป็นสิ่งที่ต้องบริโภคหรือไม่ โดยเฉพาะ
ที่เกี่ยวกับสุขภาพและความงาม
- SMEs ต้องพร้อมด้านการผลิต
การเงินและการตลาด หากไม่สันทัดเรื่องการ
ส่งออกให้แสวงหาพันธมิตรที่มีความชำนาญเป็นที่ปรึกษา หรือบริการนำเข้า-
ส่งออกแทน
การพัฒนาแนวคิดการทำธุรกิจส่งออก
1.
การรวมกลุ่มสินค้าเพื่อสร้างความแข็งแกร่ง โดยภายในกลุ่มมีผู้นำที่มีความ
ชำนาญด้านการตลาดเพื่อขจัดจุดอ่อนที่ทำให้การรวมกลุ่มไม่ประสบความ
สำเร็จ
2. การทำตลาดต้นทุนต่ำด้วยการตลาดออนไลน์
3. การคัดเลือกพันธมิตรที่มีความชำนาญในตลาดเป้าหมาย และมีความเข้าใจ
ในการทำธุรกิจต่างประเทศ (Packaging , Pricing
Structure , Entry Barrier , )
เพื่อขจัดจุดอ่อนเรื่องความชำนาญด้าน
Marketing
4. การเชื่อมโยงจากประเทศเป้าหมายไปสู่ประเทศที่
3 เช่นจากพม่าและลาว
ต่อยอดไปถึงสิบสองปันนา เป็นต้น
เริ่มธุรกิจจากการขายนำคือเป็นเทรดดิ้งก่อน
จากนั้นประสบปัญหาเรื่อง
- ดำเนินรายการโดยสุภาวดี เวศยพิรุฬห์ สื่อมวลชนอาวุโสด้าน SME
การควบคุมคุณภาพ
เรื่องการจัดส่งจึงเริ่มทำงานวิจัยร่วมกับสถาบันการศึกษา ตาม
ด้วยการตั้งโรงงานต่ยังคงใช้การขายนำ
อาจเริ่มจากดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งโดยอาศัย
Social
Media อาทิ Google SCO,
Edword , Google Display ซึ่งเป้นส่วนสำคัญที่ทำให้ได้คู่ค้าจากต่างประเทศที่ติดต่อ
เข้ามาผ่านเว็ปไซด์หลายประเทศ รวมถึงเวียดนามที่ติดต่อเข้ามเพื่อขอเป็นตัวแทน
จำหน่าย ทั้งนี้ ต้องผ่านการพิจารณาตำแหน่งของสินค้าให้สอดคล้องกัน เนื่องจาก
สินค้าตลาดกลางของไทยไม่สามารถทำตลาดได้เพราะถือได้ว่าเป็นสินค้าระดับบน
ของเวียดนาม
การผูกสัมพันธ์กับคู่ค้าใช้เวลาต่อเนื่องจนสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
และนำไปสู่การร่วมธุรกิจในที่สุด อาทิ เมื่อต้องการเปิดสำนักงานขายจึงเกิดแนวคิด
ร่วมธุรกิจจนสามารถรับคำสั่งผลิตจากเวียดนามได้ แต่นำมาผลิตในไทยภายใต้
แนวคิดความเชื่อถือด้านมาตรฐานสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย
จะได้รับการยอมรับใน
ตลาด CLMV .เมื่อเริ่มจากเวียดนามสามารถขยายถึงแม่โขงเดลต้า
กลยุทธ์การแสวงหา
Partner
และ Distributor
1. การทำ E-marketing ผ่าน Google
เป็นหลัก สิ่งสำคัญคือเว็ปไซด์ ใช้เครื่องมือ
วิเคราะห์ (SEO Qeack วิเคราะห์ Performance , Facebook Marketing ใช้กับ
เวียดนามได้ผลลัพท์ดีต้องใช้ภาษาเวียดนาม การทำที่พม่าประชากร 55 ล้านคน
ใช้ Facebook 2 ล้านคน การทำ
Page like มีราคาถูก 60 สตางค์/ไลค์ แต่การได้มา
ซึ่งยอดขายไม่ดีเท่าการลงนิตยสาร ทีวี
หรือวิทยุ )
2. การคัดเลือกทีมงานที่เป็นคนในประเทศเป้าหมายการตลาด
(ที่บริษัทตั้งทีม Oversea
project management )- ดำเนินรายการโดยสุภาวดี เวศยพิรุฬห์ สื่อมวลชนอาวุโสด้าน SME
(2) กิจกรรมในช่วงบ่ายการจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการในภูมิภาคกับผู้จัดจำหน่ายสินค้า
ในตลาดอาเซียน ได้แก่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) /บริษัท ดีเคเอสเอช จำกัด /
บริษัท แบงคอค เฟส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด /บริษัท ยู-โกลบ อินเตอร์เทรด จำกัด /บริษัท
โทนี่ อินเตอร์เน็ทเวิร์ค จำกัด
ในตลาดอาเซียน ได้แก่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) /บริษัท ดีเคเอสเอช จำกัด /
บริษัท แบงคอค เฟส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด /บริษัท ยู-โกลบ อินเตอร์เทรด จำกัด /บริษัท
โทนี่ อินเตอร์เน็ทเวิร์ค จำกัด
สมาชิกชมรมนักธุรกิจไทยในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ( DITP AEC CLUB )
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก
ศูนย์พัฒนาการค้าและธุรกิจไทยในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
(AEC Business Support Center)
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
ID.Line : HongSupawadee
Facebook : Hong Supawadee
E-mail : hongsupawadee@gmail.com
No comments:
Post a Comment