Saturday, July 16, 2016

AEC Smart Move # 1 เชียงใหม่ by AEC Business Support Center

AEC for SME by HongSupawadee
ครั้งที่ 1 วันพฤหัสที่ 31 มีนาคม 2559 ณ โรงแรมอีสติน ตัน จ.เชียงใหม่ 
“AEC Smart Move : รู้ทิศ พิชิตโอกาส ก้าวสู่ตลาดอาเซียนอย่างยั่งยืน” 




กิจกรรมในงานฯ ประกอบด้วย 
(1) กิจกรรมในช่วงเช้า ประกอบด้วย
     1.1 การบรรยายในหัวข้อ "โอกาสของผลิตภัณฑ์ไทย หลังเปิดตลาด AEC "
           โดย อาจารย์ ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด
                  

              Timing Management คือ บริหารจังหวะเวลา  SMEs ที่สามารถขยายตลาดไปสู่
AEC ได้ มักตามมาด้วยปัญหาการถูกลอกเลียนแบบ พร้อมไปกับการเข้ามาตัดราคาจาก
ผู้ประกอบการรายใหญ่  ดังนั้น หากต้องการหลีกเลี่ยงสงครามราคาผู้ประกอบการจึง
ควรสร้างแบรนด์
ด้วยสภาพแวดล้อมดังกล่าวการประกอบการของ SMEs จึงต้องพิจารณาเงื่อนไข
สำคัญคือ Know Youself : What. Benefit dose your products or service really provide?
                                          (สินค้าและบริการของเรามีคุณประโยชน์อย่างไร)
หมายถึง สินค้าและบริการที่ดำเนินอยู่จัดอยู่กลุ่มใด , กลุ่มที่อยู่นั้นมีโอกาสหรือเป็นอุปสรรค 
หากเป็น Blue Ocean ต้องมีความแตกต่างและมีข้อดีเหนือคู่แข่งในกลุ่มเดียวกัน  , สอดคล้อง
กับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายหรือไม่   จากนั้นพึงวิเคราะห์ขนาดตลาดและดำเนินธุรกิจ
ด้วยการ Focus พร้อมไปกับการพัฒนาโดยอาศัยการสังเกตุต้นแบบที่ประสบความสำเร็จใน
การส่งออก                                              
               การก้าวสู่ตลาด AEC วัฒนธรรมคือปัจจัยที่ควรพิจารณาว่าจะเป็นโอกาส อาทิ การ
เรียนรู้วัฒนธรรมไทยผ่านสื่อ  เกิดความเชื่อมั่นสินค้าไทยในกลุ่มประเทศ CLMVโดยเฉพาะ
อย่างยิ่งในกลุ่มนี้ทีอัตราการขยายตัวต่อเนื่องจนเกิดชนชั้นกลางจำนวนมากที่เป้นหำลังซื้อ
               การวางแผนธุรกิจควรคำนึงถึงเป้าหมายธุรกิจว่า เราอยู่ใน Generation ใดในการ
ทำธุรกิจ  หากกิจการมีการเติบโดตจะมีการตัดสินใจต่อองค์กรอย่างไร อาทิ การขายกิจการ
หรือการนำเข้าสู่การระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์สำหรับ SME ได้แก่ ตลาด MAI
               โครงสร้างการค้าระหว่างประเทศได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบไปตามโครงสร้างการรวม
กลุ่มการค้า เช่นเดียวกับการรวมตัวของ 10 ประเทศสมาชิกอาเซียนในนาม AEC ซึ่งไทยใน
ฐานะ 1 ในประเทศสมาชิกมีความน่าสนใจน้อยกว่าประเทศอื่น โดยเทียบอัตราการขยายตัว
ที่เป็นเพียง ยละ ๒.๘ ขณะที่ลาวขยายร้อยละ ๙ รองลงไปคือกัมพูชา ร้อยละ๘  ประเทศพม่า
ร้อยละ ๗ พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าการเมืองใหม่กับการมีประธานาธิบดีคนใหม่
ที่เป็นพลเรือนเป็นคนแรก

     1.2 การเสวนาในหัวข้อ AEC Smart Move : รู้ทิศ พิชิตโอกาส ก้าวสู่ตลาดอาเซียนอย่างยั่งยืน
          โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิประกอบด้วย
          - คุณสรกิจ มั่นบุปผชาติ
 กรรมการผู้จัดการ
 บริษัท เศรษฐ์อินเตอร์เทรด จำกัด


สภาวะแวดล้อมทางธุรกิจภายหลังการเปิด AEC
ประเทศอื่นนอก AEC ตื่นตัวเข้ามาใน AEC มาก  ภายใน 5 ปีข้างหน้าจะเปลี่ยน
โฉมหน้ามือเป็นหลังมือ  ประเทศไทย คือศูนย์กลางของโลจิสติกส์ อยู่ที่การยูทิไลส์
ประโยชน์จากการเป็นศูนย์กลางของเรามากน้อยแค่ไหน  มีความพร้อมมากในกลุ่ม
สินค้าไลฟ์สไตล์ที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์
การศึกษาประเทศญี่ปุ่น จะส่งออกเซมเบ้ที่บรรจุผลไม้อบแห้ง ที่เป็นวัฒนธรรม
กรณีศึกษาประเทศอินเดีย กำลังตื่นตัว  มีหลายสินค้าประสบความสำเร็จในยุโรป
วิธีการคิดที่แตกต่างมีความสำคัญไม่น้อยกว่าความสามารถในการบริหารธุรกิจ
1.            การรักษาความชำนาญที่มี
2.            การแบ่งงานตามความถนัดของบุคคลากรหรือพันธมิตร
3.            การเติมเต็มในสิ่งที่พันธมิตรขาด
4.            การจัดการโครงสร้างองค์กรให้สอดคล้องกับการให้ความสำคัญด้านการบริการ
เพิ่มมากขึ้น  เพื่อสร้างความพึงพอใจและสามารถปิดการขายกับลูกค้าได้
5.            การจัดการการบริการ
6.            ด้านการตลาดพัฒนาจากการขายสินค้าแบรนด์ของตัวเองอย่างเดียวมาเป็นการ
รวมสินค้ากับพันธมิตรในรูป Group of Brand เมื่อทำตลาดใช้การนำเสนอร่วมกันผ่าน
แนวคิดร่วมกันในการนำเสนอโดยสร้างจุดแข็งร่วมกัน  จากนั้นเชิญลูกค้าเป้าหมายเข้า
รับข้อมูลรายละเอียดคุณสมบัติของสินค้า  การแนะนำแหล่งผลิต
7.            การขยายกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เช่น เดิมกลุ่ม Life Style มีเป้าหมายคือกลุ่มโรงแรม
 สามารถขยายเพิ่มเป็นกลุ่มห้างสรรพสินค้า เช่น กระทรวงพาณิชย์การทำงานร่วมกับห้าง
Tagashiyama ประเทศญี่ปุ่น   นำสินค้าไทยไปขายจริง (ทำคอนไซน์เม้นท์จริง Process จริง
ขายในราคาขายที่นั่น )  กำลังทำกับห้างมิชสึโกฉิ(มาพร้อมกับอิเซตัน)
 8.           การขยายธุรกิจนอกจากการขายสินค้าไปสู่ธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่องตามความชำนาญ
ของผู้ประกอบการ ( มีแวร์เฮาส์อยู่ที่ กม.48 บางนา-ตราด 40 ไร่ ทำให้เป็นศูนย์กระจายสินค้า
โดย JV กับพันธมิตรจากญี่ปุ่น ) เป้าหมายคือให้ลูกค้าได้สินค้าในราคาที่ถูกแลค่าขนส่งที่ถูก
9.            การหาพาร์ทเนอร์ที่ทำงานด้วคือ คนดี ชื่อเสียงดี (ดี)ตระกูลดี(ดีมาก) เริ่มจากการ
แลกเปลี่ยนการเป็นตัวแทนสินค้าระหว่างกัน (Cross Business) โดยตั้งเป้าหมายยอดค้า
ระหว่างกันอย่างชัดเจน หากหาตลาดที่โฟกัสชัดเจนดำเนินการเปิดสำนักงาน (โรงแรมญี่ปุ่น
80 เปอร์เซ็นต์เป็นเรียวกังต้องการการพัฒนา  จึงเป็นโอกาสในการเสนอคิดธุรกิจแบบใหม่ๆ 
ปี2020 จะเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก )
*** ตลาดที่ใช้สินค้าไทยคือ B-B+ ซึ่งเป็นตลาดใหญ่

         -  คุณวิทูร ศุภประกฤต 
            ที่ปรึกษาอิสระและอดีตผู้จัดการอาวุโสฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ 
            บริษัท โอสถสภา จำกัด 

              การทำธุรกิจกับเพื่อนบ้าน  ควรมองเป็นพันธมิตรไม่ใช่คู่แข่งทางการค้า  สามารถ
จับมือร่วมกันในการขยายตลาดนอก AEC
- อะไรที่เราดีกว่าเขา  อะไรที่เขาดีกว่าเรา  ให้มีการแลกเปลี่ยน
- เลือกพนักงานจเอ็มก็เลือกคนไทย  ไม่เลือกเวียดนามเพราะอีก 2 ปีเขาก็ไปเป็น
  เถ้าแก่ ควรจับลักษณะเป็นพาร์ทเนอร์
- การไปตลาดต่างประเทศ  สิ่งที่ควรพิจารณาคือ คน(เลือกคนดีที่มีศักยภาพใน
  การทำให้เก่ง)
- ไม่คิดว่าจะไปขายอย่างเดียว  แต่ถ้าพบสินค้าดีก็ควรต่อยอดด้วยการนำเข้า  หรือ
  บริการ QA ให้กับคู่ค้า
- เศรษฐกิจไม่ดี  ทำของดกีราคาถูกหรือไม่ เป็นสิ่งที่ต้องบริโภคหรือไม่ โดยเฉพาะ
  ที่เกี่ยวกับสุขภาพและความงาม
- SMEs ต้องพร้อมด้านการผลิต การเงินและการตลาด  หากไม่สันทัดเรื่องการ
  ส่งออกให้แสวงหาพันธมิตรที่มีความชำนาญเป็นที่ปรึกษา  หรือบริการนำเข้า-
  ส่งออกแทน
การพัฒนาแนวคิดการทำธุรกิจส่งออก
1.         การรวมกลุ่มสินค้าเพื่อสร้างความแข็งแกร่ง  โดยภายในกลุ่มมีผู้นำที่มีความ
ชำนาญด้านการตลาดเพื่อขจัดจุดอ่อนที่ทำให้การรวมกลุ่มไม่ประสบความ
สำเร็จ
              2.   การทำตลาดต้นทุนต่ำด้วยการตลาดออนไลน์ 
3.   การคัดเลือกพันธมิตรที่มีความชำนาญในตลาดเป้าหมาย  และมีความเข้าใจ
      ในการทำธุรกิจต่างประเทศ (Packaging , Pricing Structure , Entry Barrier , )
      เพื่อขจัดจุดอ่อนเรื่องความชำนาญด้าน Marketing
4.   การเชื่อมโยงจากประเทศเป้าหมายไปสู่ประเทศที่ 3  เช่นจากพม่าและลาว
      ต่อยอดไปถึงสิบสองปันนา เป็นต้น
         - คุณวุฒิพงษ์ ผาณิตเศรษฐกร
 กรรมการผู้จัดการ
              บริษัท แบงค็อก เฟซ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
        


                      เริ่มธุรกิจจากการขายนำคือเป็นเทรดดิ้งก่อน จากนั้นประสบปัญหาเรื่อง
การควบคุมคุณภาพ  เรื่องการจัดส่งจึงเริ่มทำงานวิจัยร่วมกับสถาบันการศึกษา ตาม
ด้วยการตั้งโรงงานต่ยังคงใช้การขายนำ
อาจเริ่มจากดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งโดยอาศัย Social Media อาทิ Google SCO,
Edword , Google Display ซึ่งเป้นส่วนสำคัญที่ทำให้ได้คู่ค้าจากต่างประเทศที่ติดต่อ
เข้ามาผ่านเว็ปไซด์หลายประเทศ  รวมถึงเวียดนามที่ติดต่อเข้ามเพื่อขอเป็นตัวแทน
จำหน่าย  ทั้งนี้ ต้องผ่านการพิจารณาตำแหน่งของสินค้าให้สอดคล้องกัน  เนื่องจาก
สินค้าตลาดกลางของไทยไม่สามารถทำตลาดได้เพราะถือได้ว่าเป็นสินค้าระดับบน
ของเวียดนาม
การผูกสัมพันธ์กับคู่ค้าใช้เวลาต่อเนื่องจนสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
และนำไปสู่การร่วมธุรกิจในที่สุด  อาทิ เมื่อต้องการเปิดสำนักงานขายจึงเกิดแนวคิด
ร่วมธุรกิจจนสามารถรับคำสั่งผลิตจากเวียดนามได้  แต่นำมาผลิตในไทยภายใต้
แนวคิดความเชื่อถือด้านมาตรฐานสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย จะได้รับการยอมรับใน
ตลาด CLMV .เมื่อเริ่มจากเวียดนามสามารถขยายถึงแม่โขงเดลต้า
               กลยุทธ์การแสวงหา Partner และ Distributor
1.      การทำ E-marketing ผ่าน Google เป็นหลัก สิ่งสำคัญคือเว็ปไซด์ ใช้เครื่องมือ
วิเคราะห์ (SEO Qeack วิเคราะห์ Performance , Facebook Marketing ใช้กับ
เวียดนามได้ผลลัพท์ดีต้องใช้ภาษาเวียดนาม  การทำที่พม่าประชากร 55 ล้านคน
ใช้ Facebook 2 ล้านคน การทำ Page like มีราคาถูก 60 สตางค์/ไลค์ แต่การได้มา
ซึ่งยอดขายไม่ดีเท่าการลงนิตยสาร ทีวี หรือวิทยุ )
2.      การคัดเลือกทีมงานที่เป็นคนในประเทศเป้าหมายการตลาด (ที่บริษัทตั้งทีม Oversea
                     project management )

 - ดำเนินรายการโดยสุภาวดี  เวศยพิรุฬห์ สื่อมวลชนอาวุโสด้าน SME 
     




(2) กิจกรรมในช่วงบ่ายการจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการในภูมิภาคกับผู้จัดจำหน่ายสินค้า
     ในตลาดอาเซียน ได้แก่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) /บริษัท ดีเคเอสเอช จำกัด /
     บริษัท แบงคอค เฟส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด /บริษัท ยู-โกลบ อินเตอร์เทรด จำกัด /บริษัท 
     โทนี่  อินเตอร์เน็ทเวิร์ค จำกัด




(3) การออกคูหาประชาสัมพันธ์ข้อมูลการค้าการลงทุนในตลาดอาเซียนและรับสมัคร
     สมาชิกชมรมนักธุรกิจไทยในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ( DITP AEC CLUB )  

ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก 
ศูนย์พัฒนาการค้าและธุรกิจไทยในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 
(AEC Business Support Center)
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ  กระทรวงพาณิชย์

ID.Line : HongSupawadee
Facebook : Hong Supawadee 
E-mail : hongsupawadee@gmail.com



      

No comments:

Post a Comment