“AEC Smart Move : รู้ทิศ พิชิตโอกาส ก้าวสู่ตลาดอาเซียนอย่างยั่งยืน”
จัดโดย ศูนย์ AEC Business Support Center กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
โดยมี คุณเอกสิทธิ์ อารยนันท์ พาณิยชย์จังหวัดอุบลราชธานี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิด
![]() |
คุณเอกสิทธิ์ อารยนันท์ พาณิยชย์จังหวัดอุบลราชธานี |
กิจกรรมในงานฯ ประกอบด้วย
(1) กิจกรรมในช่วงเช้า
1.1 การบรรยายในหัวข้อ "โอกาสของผลิตภัณฑ์ไทย หลังเปิดตลาด AEC "
โดย ดร.ปิติ ศรีแสงนาม
ผู้อำนวยการศูนย์อาเซียนศึกษา
ประชาคมอาเซียนคือโอกาสและความท้าทาย เพราะเป็นความร่วมมือในทุกมิติในทุกระดับ ในทุกเรื่องของคน 600 กว่าล้านคน กฎระเบียบข้อตกลงระหว่างกันได้เข้ามาเปลี่ยนภูมิประเทศของสมาชิกใหม่ เมื่อกำแพงที่เป็นมาตรการทางการค้าหมดไปแต่กลับสร้างกำแพงทางจิตวิทยาขึ้นแทน ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยควรมองอาเซียนด้วยมุมมองใหม่
-
สปป.ลาว / กัมพูชา สามารถเชื่อมไปสู่ตลาดที่ใหญ่กว่าได้ คือ
เวียดนามที่มีประชาคม 100 ล้านคน
และเวียดนามยังเป็นข้อต่อที่เชื่อมต่อไปยังจีน กวางโจวถึงหนานหนิงใช้ระยะเวลา 2 วัน จากหนานหนิงถึงขอนแก่น
2 วัน ขอนแก่นจึงเป็นศูนย์กระจายสินค้าที่ดีของสินค้าจากประเทศจีน
(ของใหม่ล่าสุดวางที่แฟชั่นวีคจะถูกก๊อปปี้ใน 15 ชั่วโมงและมาถึงขอนแก่นภายใน 5 วัน)
สำหรับมุกดาหารกับสวรรค์เขตมีข้อตกลงตั้งด่านศุลกากรที่มุกดาหารใช้เวลาตรวจภายใน 1
ชม. ไม่ต้องกรอกแบบฟอร์มโดยใช้ National single window จึงเป็นช่องทางขนส่งสินค้าที่คล่องตัว
-
เมียนม่ามีประชากร 55 ล้านคน เป็นเกตเวย์สู่มหาสมุทรอินเดีย
เป็นประตูสู่ลาดอินเดียที่มีประชากร 1,250 ล้านคน
-
ตลาดอาเซียน 610 ล้านคน คิดเป็น 8.8% ของประชากรโลก
จึงเป็นตลาดที่มีความต้องการและมีเงินในปี 2015 คนอาเซียนสร้างรายได้รวมกัน 2.65
ล้านๆดอลล่าห์ (ขณะที่ไทยผลิตได้ 4 แสนล้านดอลล่าห์) มีรายได้อันกับ 7 ของโลกและอันดับ 3 ของเอเชีย ธนาคารโลกคาดการณ์ปี 2050 อาเซียนจะเป็นเศรษฐกิจอันดับ
4 ของโลก (1 จีน 2 สหรัฐ 3 ญี่ปุ่น)
-
การทำธุรกิจขึ้นอยู่กับ ปัจจัย 4 อย่าง คือ
คนผลิต สินค้า สถานที่ และคนซื้อ ถ้าทำธุรกิจโดยนำเอา 3 ปัจจัยด้านอุปทานเป็นตัวตั้งโอกาศล้มเหลวมีมากเพราะเป็นการตอบสนองความต้องการของตัวผู้ประกอบการเอง ธุรกิจจะสำเร็จจึงต้องทำเพื่อตอบอุปสงค์คือความต้องการของคนหรือผู้ซื้อเป็นหลัก
1.2 เสวนาในหัวข้อ “AEC Smart Move : รู้ทิศ พิชิตโอกาส ก้าวสู่ตลาดอาเซียนอย่างยั่งยืน”
โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิประกอบด้วย
- คุณวิทูร ศุภประกฤต
ที่ปรึกษาอิสระและอดีตผู้จัดการอาวุโสฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ
บริษัท โอสถสภา จำกัด
บริษัท โอสถสภา จำกัด
- คุณอมรเทพ
อสีปัญญา
ผู้อำนวยการการขายต่างประเทศ
ผู้อำนวยการการขายต่างประเทศ
บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน)
- คุณสุรศักดิ์ พันธ์วิไล
ผู้จัดการทั่วไป
บริษัท เศรษฐ์อินเตอร์เทรด จำกัด
ดำเนินรายการโดย สุภาวดี เวศยพิรุฬห์ สื่อมวลชนอาวุโสด้านเศรษฐกิจและ SME
คุณวิทูร ศุภประกฤต
ที่ปรึกษาอิสระและอดีตผู้จัดการอาวุโสฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ
บริษัท โอสถสภา จำกัด
คุณวิทูร ศุภประกฤต
ที่ปรึกษาอิสระและอดีตผู้จัดการอาวุโสฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ
บริษัท โอสถสภา จำกัด
การเปิดตลาดประเทศเพื่อนบ้าน
ผู้ประกอบการควรศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคซึ่งแต่ละประเทศของเพื่อนบ้านจะมีความแตกต่างกัน และเตรียมความพร้อม
การทำการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านควรควบคู่กับการค้าขายสองทางคือเ
เมื่อส่งสินค้าไปแล้วสามารถซื้อวัตถุดิบกลับมาเพื่อทำการแปรรูปเพื่อส่งออก
คุณอมรเทพ อสีปัญญา
ผู้อำนวยการการขายต่างประเทศ
บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน)
การส่งออกสินค้าแบรนด์ไทยในนามซาบีน่า(จากเดิมคือชุดชั้นในจินตนา)เป็นสินค้า
Mass
Product จึงพิจารณาส่งออกไปยังประเทศที่มีประชากรจำนวนมาก ได้แก่
กลุ่ม VIP ประกอบด้วย
o เวียดนาม 90 ล้านคน มีห้างสรรพสินค้าชั้นนำทยอยเปิดจำนวนมาก
o อินโดนีเซีย 200 ล้านคน
o ฟิลิปปินส์ เกิน 100 ล้านคน เมื่อปี 2015
สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการเจาะตลาดต่างประเทศ
๑.
การค้นหาตัวเอง
๒. หาจุดขายของสินค้าที่แตกต่างจากคู่แข่งอย่างไร
๓. การเข้าถึงผู้บริโภคในสินค้าที่ยากในการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์สื่อหลักอย่างชุดชั้นใน
ที่มีเรื่องของขนบธรรมเนียม วัฒนธรรมและศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง สามารถใช้ช่องทางโซเชียล
มีเดียในการเข้าถึงได้เป็นอย่างดี
ที่มีเรื่องของขนบธรรมเนียม วัฒนธรรมและศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง สามารถใช้ช่องทางโซเชียล
มีเดียในการเข้าถึงได้เป็นอย่างดี
คุณสุรศักดิ์ พันธ์วิไล
ผู้จัดการทั่วไป
บริษัท เศรษฐ์อินเตอร์เทรด จำกัด
ข้อได้เปรียบของการค้าขายกับประเทศ
CLMV คือความนิยมในสินค้าไทย ดังนั้น การเข้าสู่ตลาดผู้ประกอบการจึงควรพิจารณาว่าสินค้าหรือบริการของตนสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างไร มีอะไรแตกต่างจากคู่แข่งในตลาดนั้นๆโดยเลือกสินค้าที่เด่นที่สุดขึ้นมาพัฒนา
การทำ Focus Group ของกลุ่มประเทศที่มีกำลังซื้อเป็นอีกข้อควรพิจารณา โดยมองถึงกำลังซื้อของตลาดเพียงส่วนในกลุ่มประเทศที่มีจำนวนประชากรสูง แล้วพัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค เช่น
กลุ่มผู้มีรายได้สูงที่มีถึงร้อยละ 20 ของประชากร 1,300 ล้านคนของประเทศอินเดีย
เป็นต้น
การออกงานแสดงสินค้าคือช่องทางที่สามารถเข้าถึงตัวแทนจำหน่าย
ผู้ประกอบการสามารถเข้าร่วมกิจกรรมของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศทั้งที่จัดขึ้นในและต่างประเทศ ที่สำคัญสำหรับสินค้ากลุ่มไลฟ์สไตล์คือ การออกแบบสินค้าใหม่
อะไรที่ยากต่อความเข้าใจการอธิบายที่ดีที่สุดคือการให้ผู้เข้าร่วมงานทดลองใช้
( (2) กิจกรรมช่วงบ่ายการจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการในภูมิภาคกับผู้จัดจำหน่ายสินค้าในตลาดอาเซียน ได้แก่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) /บริษัท ดีเคเอสเอช จำกัด / บริษัท แบงคอค เฟส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด /บริษัท ยู-โกลบ อินเตอร์เทรด จำกัด /บริษัท โทนี่ อินเตอร์เน็ทเวิร์ค จำกัด
(3) การออกคูหาประชาสัมพันธ์ข้อมูลการค้าการลงทุนในตลาดอาเซียนและรับสมัคร
สมาชิกชมรมนักธุรกิจไทยในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ( DITP AEC CLUB )
สมาชิกชมรมนักธุรกิจไทยในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ( DITP AEC CLUB )
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก
ศูนย์พัฒนาการค้าและธุรกิจไทยในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
(AEC Business Support Center)
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
ID.Line : HongSupawadee
E-mail : hongsupawadee@gmail.com
No comments:
Post a Comment